การกลับมาแบบสมศักดิ์ศรี ของแปลรักฉันด้วยใจเธอพาส 2

เเปลรักฉันด้วยใจเธอพาส 2

เชื่อว่าแฟน ๆ ซีรีย์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ จะต้องกรี๊ดกันลั่นจอ กับการออนแอร์อีพี 1 ของพาส 2 ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะการกลับมาครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาแบบสมศักดิ์ศรี และสมการรอขคอยของทาง nangdung มาก ๆ ปกติแล้วผลงานแต่ละชิ้นที่ออกมาจากบริษัทนาดาวบางกอก มักจะไม่ทำให้ผู้ชมเป็นผิดหวัง และแต่ละเรื่องที่ดู ก็จะให้แง่มุมที่เขาต้องการนำเสนอได้อย่างชัดเจน รวมถึงการกลับมาของแปลรักฉันด้วยใจเธอพาส 2 ที่ใช้ชื่อว่า I Promised You The Moon ในครั้งนี้ด้วย

การกลับมาแบบสมศักดิ์ศรี ของแปลรักฉันด้วยใจเธอพาส 2

ถ้ามีใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของ พีพี กฤษฏ์ หนึ่งในนักแสดงหลักของเรื่อง น่าจะพอทราบว่าตัวนักแสดงย้ำเสมอ ว่าการกลับมาดูแปลรักพาส 2 ครั้งนี้ ให้ทุกคนเซ็ทซีโร่ หรือเริ่มต้นกันที่ศูนย์ ลืมความรักหรือแบล็กกราวน์แบบเก่า ๆ ที่เคยเจอในพาสหนึ่งออกไป แล้วผู้ชมจะเห็นพาสของความรัก และความฝันของตัวละครทั้ง 2 คนอย่างชัดเจน ซึ่งครั้งแรกที่เราได้ดูซีรีส์อีพี 1 เรารู้สึกได้ถึงพ้อยส์ของความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนจริง ๆ

ความรักในรูปแบบของการเติบโตมากขึ้น

ความรักในรูปแบบของการเติบโตมากขึ้น

พอมองย้อนกลับไปพาสแรก จะเห็นว่าเรื่องราวความรักของตัวละคร เต๋ รับบทโดย บิวกิ้น และโอ้เอ๋ว รับบทโดย พีพี มันเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ในวัยเด็ก เริ่มจากการเป็นเพื่อน เป็นคนสนิท ทำอะไรเหมือน ๆ กัน เติบโตมาด้วยกัน กระทั่งวันหนึ่งเมื่อเราผ่านช่วงวัยแห่งความสับสนมา เราจะรู้ว่าความรักที่ตัวละครให้กัน มันเป็นความรักแบบโนเจนเดอร์ มันเป็นความรู้สึกรักแบบรักจริง ๆ โดยไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง

แต่แน่นอนว่าด้วยวัย และวุฒิภาวะที่ยังเป็นเด็กมัธยม ความคิดและสิ่งต่าง ๆ มันอาจจะยังไม่เข้าร่องเข้ารอยสักเท่าไหร่ ประกอบบกับบริบทของสังคมหลาย ๆ อย่าง ที่กระตุ้นตัวละครอยู่เสมอ ทำให้กว่าที่เต๋มันจะรู้ใจตัวเอง ว่าความจริงแล้วรักโอ้เอ๋วแค่ไหน ก็ปาไปตอนสุดท้ายของพาส 1 ซึ่งการตกลงเป็นแฟนกันครั้งนั้น มันยังกระฉากความรู้สึกของผู้ชมไม่มากพอ

แต่เมื่อเต๋และโอ้เอ๋วเติบโตเข้าสู้ช่วงมหาวิทยาลัย พ้อยส์ทุกอย่างที่เคยเจอในช่วงมัธยมจะถูกตัดออกไปทั้งหมด แน่นอนล่ะว่ามันมีเรื่องของความสัมพันธ์บนเตียงเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตัวละครทั้ง 2 ตัวถ่ายทอดอารมณ์ในลักษณะต่าง ๆ ออกมาได้อย่างดี ทั้งเต๋และโอ้เอ๋วกล้าที่จะทำในสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น กล้าแสดงความรักต่อหน้าผู้คน และกล้าที่จะบอกรักกัน แบบไม่ลังเลหรือต้องหันมองคนรอบข้างเหมือนพาสที่ผ่านมา

ความฝันที่ชัดเจนมากขึ้น

ความฝันที่ชัดเจนมากขึ้น

จริง ๆ แล้วช่วงวัยมหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่คน ๆ หนึ่งตัดสินใจอะไรบางอย่างได้พอสมควรแล้ว ตัวละครทั้งเต๋และโอ้เอ๋ว ก็มีแพทชั่นเรื่องนี้แบบเต็มที่ ความฝันของเต๋คืออยากเป็นนักแสดง ซึ่งเรื่องนี้ปูมาตั้งแต่พาสแรก และทุกคนเห็นชัดเจน พอเข้าสู่วัยมหาลัย เต๋ก็ยังเดินตามความฝันแบบมุ่งมั่น และจากการดูอีพีแรกที่จบไป เราเชื่อว่าในอีกไม่ช้า ตัวละครเต๋จะต้องได้ในสิ่งที่เขาหวังแน่นอน

ส่วนปมที่เรื่องนี้ทิ้งเอาไว้หนึ่งอย่าง คือความฝันของโอ้เอ๋ว ที่ตอนแรกยืนหยัดว่าอยากเป็นนักแสดง แต่ถ้าเราเห็นตัวอย่างบางตอนจากทีเซอร์ มันจะมีประโยคที่โอ้เอ๋วบอกว่า เขาไม่เหมาะกับการแสดง เขาอยากย้ายภาค เนื้อหาส่วนนี้น่าสนใจมาก ๆ ว่าอะไรกัน ที่ทำให้โอ้เอ๋วที่ยืนหยัดมาตั้งแต่ต้น เรื่องการเป็นนักแสดง ถอดใจและเปลี่ยนความคิด

เข้าใจความจริง และยอมรับมันได้มากขึ้น

เข้าใจความจริง และยอมรับมันได้มากขึ้น

เชื่อว่าแต่ละซีนที่ได้เห็นความเหงาของโอ้เอ๋วในอีพี 1 จะต้องเรียกน้ำตาคนดูได้ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องเจอปัญหาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ต้องชมไปถึงการเขียนบท และการกำกับของคุณมีน ที่เล่าออกมาให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจน จริง ๆ แล้วโอ้เอ๋วต้องการเต๋ตลอดเวลา ซึ่งเต๋เองก็พยายามแบบสุดตัว ที่จะแบ่งเวลาให้เรื่องเรียน แฟน และกิจกรรมที่เป็นบันไดไปสู่ความฝันแบบเต็มที่

ในขณะที่โอ้เอ๋วเห็นความพยายามที่เต๋มีให้ตลอด รักก็รัก อยากอยู่ด้วยไหมก็อยาก แต่แฟนต้องตื่นเช้าออกจากคอนโดไปเรียนทุกวัน กว่าจะกลับก็ดึก ได้นอนวันละไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นอีกแล้ว โอ้เอ๋วเองก็ทนไม่ไหว

สุดท้ายเลยต้องตัดใจให้เต๋กลับไปนอนที่หอใน อย่างน้อยเต๋ก็ยังได้พักเพิ่มขึ้นหลายชั่วโมง รวมถึงพ้อยส์ความฝันเต๋ ที่โอ้เอ๋วยอม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาทั้งคู่ต้องห่างกันอย่างแน่นอน

นี่เป็นรสชาติใหม่ ๆ ของความสัมพันธ์ที่เราไม่เคยเจอในพาส 1 แต่เริ่มได้เห็นในพาส 2 ที่เพิ่งออนแอร์ไปได้แค่      1 ตอนเท่านั้น ส่วนนาดาวจะเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครทั้ง 2 ไปในทิศทางไหน และจะจบลงอย่างที่ผู้ชมต้องการหรือไม่ สามารถติดตาม แปลรักฉันด้วยใจเธอ พาส 2 I Promised You The Moon ได้ทุกวันพฤหัสบดี 20.00 น. ทาง LINE TV เท่านั้นค่ะ