10 หนังแนวสงคราม ที่ไม่ควรพลาด

10 หนังแนวสงคราม ที่ไม่ควรพลาด
เมื่อพูดถึงหนังแนวสงครามทุกคนต้องนึกถึงฉากยิงกัน การสู้รบนองเลือด ยุทธการในการรบต่าง ๆ ฉากระเบิดแบบที่ระทึกใจ และประวัติศาสตร์สงครามโลก วันนี้เราจะมายกตัวอย่างหนังแนวสงครามสำหรับคอหนังที่ชอบหนังแนวสงคราม ว่าแล้วเราก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันกับ nangdung.com กับ 10 หนังแนวสงคราม ที่ไม่ควรพลาด เลยครับ
10 หนังแนวสงคราม ที่ไม่ควรพลาด
1. 1917 มหาสงครามสะเทือนโลก (2019)
หนังนี้ออกฉายในโรงเมื่อปี 2019 เป็นเรื่องราวระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารอังกฤษ 2 คน สคอฟิลด์ ( จอร์จ แมคเคย ) และ เบลก ( ดีน-ชาร์ลส์ แชปแมน ) พวกเขาต้องฝ่าสมรภุมรบ ท่ามกลางดงกระสุน และดงระเบิด พวกเขาต้องข้ามเขตแดนของข้าศึก เพื่อส่งสารให้หยุดการโจมตีของทหารในแนวหน้า ก่อนทุกอย่างจะสายไปและทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของฝ่ายศัตรู หนังเรื่อง 1917 คว้า 2 รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดรามา และสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (แซม เมนเดส) ผู้กำกับภาพยนตร์ ในงาน Golden Globes 2020
ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสงครามที่ดีเยี่ยม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของชีวิตนายทหารในสนามรบ และเป็นหมายที่ช่วยสื่อออกไปถึงผู้นำระดับโลกว่า ชีวิตทหารนั้นสำคัญกว่าที่จะเอาไปลุยในสมรภูมิที่เสี่ยงอย่างไร้ค่า เพื่อแลกกับเหรียญตรา 1 เหรียญ ไว้ประดับบารมีให้กับพวกเขา

(โปสเตอร์1917)
2. PLATOON 1986 สงครามเวียดนามเดือด (1986)
พลาทูนเป็นหนังสงครามเวียดนามเรื่องหนึ่งที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสงครามเวียดนาม โดยโฟกัสไปที่ทหารอเมริกันกลุ่มหนึ่งที่ได้เข้าไปปฏิบัติภาระกิจในเวียดนาม PLATOON เป็นบทภาพยนตร์ที่สร้างจากประสบการณ์จริงของผู้ กำกับ โอลิเวอร์ สโตน เป็นภาพยนตร์ที่เข้มข้น ทรงพลัง และเป็นความทรงจำเสมือนฝันร้ายที่ไม่มีวันสลัดทิ้งไปได้ของทหารทุกคนที่ต้องสูญสิ้นความบริสุทธิ์ของจิตใจของพวกเขาไปในป่ารบของเวียดนาม หลังมาถึงเวียดนามได้ไม่นาน คริค เทย์เลอร์ (ชาร์ลี ชีน) ทหารหนุ่มอเมริกันใสซื่อผู้ค้นพบว่าเขาไม่เพียงแต่ต้องสู้รบกับเวียดกงเท่า นั้น แต่ยังต้องต่อสู้ความหวาดกลัว ความเหนื่อยล้าสาหัส และอารมณ์เกรี้ยวกราดที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ
เป็นหนึ่งในหนังสงครามที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของสงครามเวียดนามที่หนังต้องการสื่อถึงและเน้นย้ำอย่างมากก็คือ ทหารอเมริกันปฏิบัติภารกิจในเวียดนามแบบไร้อุดมการณ์ ไร้เป้ามาย ซึ่งต่างจากแนวร่วมเวียดกงและทหารเวียดนามเหนือที่รบด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณ ซึ่งก็เป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่แท้จริง

(PLATOON 1986 สงครามเวียดนามเดือด)
3. Pearl Harbor (2001)
เป็นหนังที่แสดงเนื้อหาของสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหนังที่แสดงมุมมองของสองนักบิน ราฟ แม็คคอว์ลีย์ (เบน แอฟเฟล็ค) และ แดนนี่ วอล์คเกอร์ (จอช ฮาร์ทเน็ตต์) ซึ่งเติบโตสนิทสนมกันราวกับเป็นพี่น้อง พวกเขาได้รับการฝึกฝน ให้ขับเครื่องบินกำจัดแมลงศัตรูพืช และในยามที่ชาติต้องการ พวกเขาก็พร้อมเข้าร่วมเป็นนักบิน ประจำกองทัพอากาศสหรัฐฯ หนังได้แสดงถึงเนื้อหาของฝ่ายอเมริกาที่เฝ้าระวังการถล่มของญี่ปุ่นที่จะถล่มเกาะเพิร์ล ฮาร์เบอร์
Pearl Harbor เพิร์ล ฮาร์เบอร์ เป็นหนังสงครามที่เป็นสุดยอดแห่งฉากสู้รบอย่างอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉากทิ้งระเบิด ถล่มเรือ ฉากไล่ยิงเครื่องบิน ก็ทำกันได้สมน้ำสมเนื้ออย่างที่สุด ทำให้หนังเรื่อง Pearl Harbor เพิร์ล ฮาร์เบอร์ เป็นหนึ่งในหนังสงครามที่ไม่ควรพลาด

(Pearl Harbor (2001))
4. Dunkirk (2017)
หนังสงครามอีกหนึ่งเรื่อง ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดของ Christopher Nolan ผู้กำกับที่หลายคนรู้จัก เล่าเรื่องในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Dunkirk เป็นปฏิบัติการช่วยเหลือเหล่าทหารอังกฤษและทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่ถูกโอบล้อมด้วยกองกำลังของฝ่ายศัตรู โดยที่เป็นการปิดล้อมบริเวณบนของชายหาด ทำให้เกิดการต่อสู้กันทั้งบนบกและในน้ำ เป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดบนหาดแห่งนี้ มีเอฟเฟคที่อลังการและสมจริง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแปดรางวัลจากงาน Critics’ Choice Awards ครั้งที่ 23 คว้ารางวัล Best Editing แปดรางวัลจาก BAFTA ครั้งที่ 71 คว้ารางวัล Best Sound และอีก 3 รางวัลจากรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 75 ที่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 90 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแปดครั้ง ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม (การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกของโนแลนจากการกำกับ); มันยังชนะรางวัล Best Sound Editing, Best Sound Mixing และ Best Film Editing

(Dunkirk (2017))
5. Saving Private Ryan (1998)
เป็นหนึ่งในหนังสงครามที่ดีที่สุด เพราะเรื่องนี้ได้เล่าเรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างการบุกครองนอร์มังดีในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้ครอบครัวไรอันเป็นตัวดำเนินเรื่อง Saving Private Ryan เป็นการเล่าเรื่องราวของ 3 พลทหารตระกูลไรอันที่เสียชีวิตในสงคราม แต่ภายหลังกลับรู้ว่าลูกชายคนสุดท้องยังมีชีวิตอยู่ จึงกลายเป็นภารกิจตามหาพลทหารไรอันให้รอดชีวิตกลับมา ทำให้เห็นว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนถึงความสำคัญของชีวิตนายทหารอเมริกันผู้นี้
นับตั้งแต่เปิดตัวหนังเรื่อง Saving Private Ryan หนังเรื่องนี้ก็ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลและได้รับการยกย่องว่ามีอิทธิพลต่อประเภทภาพยนตร์สงคราม โดยห้องสมุด ของสภาคองเกรสว่า “มีความสำคัญทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือสุนทรียศาสตร์” นับได้ว่าหนังเรื่องนี้นั้นคือที่สุดของหนังสงครามนั่นเอง

(Saving Private Ryan (1998))
6. Zero Dark Thirty (2012)
สร้างจากเรื่องจริงยุทธการถล่มบินลาเดน Zero Dark Thirty เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญอเมริกันปี 2012 ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงการตามล่าตัวอุซามะห์ บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ที่ใช้เวลานานเกือบทศวรรษหลังการโจมตี การค้นหานี้นำไปสู่การค้นพบสถานที่ของเขาในปากีสถานและการจู่โจมของทหารที่บินลาเดนเสียชีวิต
เป็นหนังที่แสดงถึงยุทธการเพื่อสืบหาตัวของอุซามะห์ บิน ลาเดน เป็นหนังที่ค่อยข้างซีเรียส และลุ้นระทึก รู้สึกสนุกไปกับหนัง ซึ่งเป็นหนังที่ดีในเรื่องหนึ่งของแนวสงครามที่ไม่ควรพลาดเลย

(Zero Dark Thirty (2012))
7. The Outpost (2020) ผ่ายุทธภูมิล้อมตาย
เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อของภารกิจเสี่ยงตายในอัฟกานิสถาน เมื่อทหารจำนวน 53 คน ถูกล้อมด้วยกองกำลังตาลีบันกว่า 400 คน ในเขตแดนที่ไม่มีทางออกและอันตรายที่สุดในโลก ซึ่งมีที่ตั้งที่ไม่เหมาะสมกับยุทธการรบ ใน ยุทธการกัมเดช ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่อง โดยทหารผ่านศึกรวมถึงผู้ที่ต่อสู้ในการรบเพื่อให้เห็นภาพที่สมจริงของสงครามชีวิตทหารประจำวันและรูปลักษณ์ของฐานที่มั่น
เป็นหนังที่เป็นอีกหนึ่งสุดยอดด้วยทั้งเอฟเฟคต่าง ๆ ฉากสู้รบกันอย่างสมจริง ดุเดือดเลือดพราด เรียกภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “เรื่องราวอันน่าสะเทือนใจ” ของการต่อสู้ และห้ามพลาดสำหรับแฟนหนังสงคราม

(The Outpost (2020) ผ่ายุทธภูมิล้อมตาย)
8. Midway (2019) อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ในสงครามที่เกิดขึ้นจริงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากเหตุการณ์การโจมตีที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ และปฏิบัติการบินสู้รบเหนือฟ้า มิดเวย์ ที่ถือว่าเป็นยุทธการครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์หรือที่เรียกว่า ยุทธการมิดเวย์ ได้ยกเป็น ยุทธการที่สำคัญที่สุดในแนวรบด้านมหาสมุทรแปซิฟิก กลายเป็นการรบครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เป็นการสู้รบที่แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะต่อการรบ แต่ยุทธการมิดเวย์ใช้เวลาเพียง 4 วันเป็นจุดเปลี่ยนเกมรบของสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปตลอดกาล
สุดยอดหนังที่มีฉากปะทะดุเดือดของกองบิน และกองเรืองระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่น ฉากระเบิดสมจริง ระทึกใจสมกับเป็นอีกสุดยอดหนึ่งในหนังสงคราม

(Midway (2019) อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น)
9. Hacksaw Ridge (2017) วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์
เรื่องราวอิงมาจากเรื่องจริงของ เดสมอนด์ ที. ดอสส์ (Desmond T. Doss) แพทย์ประจำกองทัพสหรัฐฯ ที่ไปรับใช้ชาติในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสมรภูมิรบที่เกาะโอกินาวาเขาปฏิเสธที่จะใช้อาวุธและลงมือฆ่าศัตรู จากการคัดค้าน และความกล้าหาญที่จะรักษาชีวิตคนไว้ในระหว่างรบของเขาทำให้เขาได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติจากประธานาธิบดี แฮร์รี่ เอส. ทรูแมน (Harry S. Truman) ของสหรัฐในปี 1945 เพื่อยกย่องในเจตนารมณ์ที่ดีของเขา
Hacksaw Ridge ถือเป็นหนังสงครามที่แฝงข้อคิดที่ดีมากมาย ซึ่งได้เห็นอุดมการณ์ของคน ๆ หนึ่งที่มีความเชื่อในพระเจ้าและร่วมฝ่าสมรภูมิรบเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ถือว่าเป็นหนังสงครามที่ดีเรื่องหนึ่งเลย

(Hacksaw Ridge (2017) วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์)
10. Patton (1970) นายพลกระดูกเหล็ก
เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่คว้ารางวัลออสการ์ถึง 7 รางวัล เป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพของภาพยนตร์ความยาวร่วม 3 ชั่วโมงเป็นเรื่องราวของนายพล George S. Patton แห่งสงครามโลกครั้งที่สอง กับการนำกองทัพเข้าร่วมรบในทวีปแอฟริกา เกาะซิซิลีแห่งอิตาลี หรือการโจมตีกองทัพเยอรมันในสมรภูมิ Battle of the Bulge
ภาพยนตร์เรื่อง Patton เน้นการเล่าเรื่องของความมีวินัยของแพตตัน และเรื่องการเมืองภายในฝ่ายสัมพันธมิตร ความสัมพันธ์ของเขากับนายทหารคนอื่นในกองทัพ และมีการดำเนินเรื่องไปอย่างช้า ๆ ตรง ๆ ตามสไตล์ภาพยนตร์ในยุค 60-70 แต่การเล่าเรื่องในแต่ละฉากก็เป็นการเล่าเน้น ๆ เนื้อ ๆ หนัก ๆ ใครชอบสไตล์ภาพยนตร์ ”ทหาร” จะต้องเป็นเรื่องนี้เลยห้ามพลาด

(Patton (1970) นายพลกระดูกเหล็ก)
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
เราได้คัดเอาเมนูของหวาน มาเอาใจสายหวานโดยเฉพาะ โดยเรามี 7 ร้านขนมเอาใจสายหวาน ในกรุงเทพฯ มาแนะนำ ไม่ว่าจะไปนั่งกินที่ร้าน หรือสั่งมากินที่บ้านก็ยังอร่อยและเด็ด ตามย่านต่าง ๆ และแต่ละร้านก็น่าจะเป็นร้านใจโปรดของใครหลาย ๆ คน ไปดูกันเลยว่าเราจะพาไปตะลุยย่านไหนบ้าง
